IPv6
ก้าวสู่อนาคตของ Internet Protocal (IP) ด้วย IPv6
ปัจจุบันการพัฒนาเทคโนโลยีการสื่อสารกำลังก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว มีการพัฒนาต่อยอดทำให้ระบบโครงข่ายมีขนาดใหญ่ขึ้น สามารถเชื่อมต่อกันได้ทั่วโลก ที่เราเรียกว่า “อินเทอร์เน็ต”
การเริ่มต้นใช้งานอินเทอร์เน็ต นั้นมีองค์ประกอบที่สำคัญ คือ IP Address เพื่ออ้างอิงถึงคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่สามารถออนไลน์ได้ เช่น Smart phone , Smart watch, Tablet , Ipad , Digital Camera เป็นต้น โดยแต่ละเครื่องจะต้องมี IP Address ที่ไม่ซ้ำกัน เพื่อให้เกิดการรับส่งข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วน ดังนั้นเทคโนโลยี IP Address จึงต้องมีการพัฒนาเพื่อให้พอเหมาะกับความต้องการใช้งานของผู้ใช้ทั่วโลก
เริ่มต้นจาก Internet Protocal Version 4 (IPv4)
Internet Protocal Version 4 (IPv4) คือ IP Address ที่ผู้ใช้กำลังนิยมใช้งานทั่วโลกในปัจจุบัน ถูกคิดค้นและเริ่มนำมาใช้งานตั้งแต่ปี ค.ศ. 1981 ประกอบด้วยกลุ่มตัวเลขทั้งหมด 32 bits รองรับการใช้งานแบบ Public IP Addressประมาณ 4,294,967,296 หรือ 4.2X109 เครื่อง ซึ่งไม่สามารถรองรับการใช้งานที่แท้จริงในปัจจุบันได้อีกต่อไป
ก้าวสู่ Internet Protocal Version 6 (IPv6) ในยุคปัจจุบันและอนาคต
IETF (The Internet Engineering Task Force) จึงได้คิดค้น IP Address ที่สอดคล้องกับความต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ตในปัจจุบัน เริ่มจาก Internet Protocal Next Generation (IPng) Model มาพัฒนาสู่ Internet Protocal Version 6 (IPv6) ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มตัวเลขทั้งหมด 128 bits และสามารถที่จะรองรับการใช้งานได้มากถึง 3.4×1038 ไม่ใช่เพียงแต่ขนาดของ IP Address ที่มีจำนวนมหาศาลเท่านั้น แต่ IPv6 ได้ถูกยกระดับ Security เพิ่มมากขึ้น ตั้งแต่การปรับปรุง รูปแบบ IP Header , การทำงานของ IP Security (IPSec) , Quality of Service (QoS) และ Stateless address autoconfiguration (SLAAC)
ด้วยอนาคตการติดต่อสื่อสารที่ไร้ขีดจำกัด เพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติด้านความปลอดภัย ISPIO : Cloud Data Center ได้มีการออกแบบวิจัยและพัฒนาระบบต่างๆ ภายใน Internet Data Center โดยนำ Internet Protocal Version 6 (IPv6) มาใช้ เพื่อเพิ่มศักยภาพการทำงาน และความน่าเชื่อถือของ Network และ Network Security หาก IPv6 คือ สิ่งที่คุณกำลังมองหา เวลาไม่คอยท่า อย่ารั้งรอที่จะเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้